แนวคิดเกี่ยวกับครอบครัว

 

การพยาบาลครอบครัว

Family Nursing

 

                                                                                             รวบรวมโดย

                                                                                  อ.กัลยาวีร์ อนนท์จารย์

                                                                                           (M.N.S.CNP.)

ขอบเขตเนื้อหา

1.       แนวคิดเกี่ยวกับครอบครัว

เนื้อหา

1. แนวคิดเกี่ยวกับครอบครัว

ความหมายของครอบครัว

โบมาร์ (Bomar,1996 อ้างใน สุริยา ฟองเกิดและศุภรา หิมานันโต,2559 ) ให้ความหมายของครอบครัวว่า  ครอบครัวคือบุคคลหนึ่งหรือมากกว่า มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกันโดยสายเลือด การแต่งงานหรือความเป็นเพื่อน

ฟรีดแมน โบเวนและโจนส์ (Friedman , Bowen  , & Jonrs,2003) ให้ความหมายของครอบครัวว่า ครอบครัวประกอบด้วยบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไปมีความรักให้แก่กันและกัน รู้จักแบ่งปัน และมีความผูกพันใกล้ชิดกันทางอารมณ์และกำหนดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

รุจา ภู่ไพบูลย์ (2541) ให้ความหมายของครอบครัวว่า ครอบครัวรวมถึงกลุ่มชนที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด ทำหน้าที่เหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวโดยจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตหรือทางกฎหมาย

ดารุณี จงอุดมการณ์ (2558) ให้ความหมายของครอบครัวว่า ครอบครัวเป็นหน่วยทางสังคม อันทรงพลังมหัศจรรย์ที่ร้อยรัดบุคคลกับบุคคลรวมทั้งสิ่งมีชีวิตที่ดูแล มีความผูกพันกันทางจิตใจ มีสัมพันธภาพต่อกันและพร้อมในการให้การเกื้อหนุนกันและกันในรูปแบบต่างๆมีความเป็นพลวัตร เปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์บริบทของสังคมที่เปลี่ยนไป

ดังนั้นอาจสรุปตามความเข้าใจของผู้เขียนได้ว่า ความหมายของครอบครัว ครอบครัวคือ บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ที่มีความผูกพันกันทางอารมณ์ความรู้สึกรักใคร่ซึ่งกันและกันไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือต่างๆเพศก็ตามขึ้นอยู่กับการกำหนดว่าใครคือครอบครัวของบุคคลในแต่ละสถานการณ์นั้นๆจะมีความสัมพันธ์กันทางสายโลหิตหรือไม่ก็ได้ แต่ต้องมีการยอมรับของบุคคลว่าเป็นครอบครัวเดียวกันและพร้อมในการให้การเกื้อหนุนกันและกันในรูปแบต่างๆ

การจัดประเภทของครอบครัว

     ลักษณะครอบครัวประเภทต่างๆ รวมทั้งการกำหนดนับการเป็นสมาชิกและลำดับชั้นของครอบครัวแต่ละประเภทเข้าไว้ด้วยกันในที่นี้ เพื่อความสะดวกในการมองภาพรวมของ “ครอบครัว” ดังนี้

1. ครอบครัวที่จัดตามลำดับการก่อตั้งและขนาดของครอบครัว การจัดประเภทของครอบครัวโดยพิจารณาจากลำดับที่มีการก่อตั้งครอบครัว (Family formation) ของคนในรุ่นต่างๆ รวมไปถึงขนาดของครอบครัวด้วย สามารถจำแนกได้ดังนี้

1.1 ครอบครัวเดี่ยว (Neuclear family) คือครอบครัวที่ถือเป็นแก่นแท้หรือแกนหลักของครอบครัวในความหมายที่แท้จริง เพราะก่อตั้งขึ้นด้วยการที่คนต่างเพศสองคนตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน มีความสัมพันธ์ฉันท์สามี-ภรรยา และสืบทอดสายโลหิตด้วยการให้กำเนิดบุตร หรือหากไม่มีบุตรโดยสายโลหิต ก็อาจจะมีการรับเลี้ยงดูผู้อื่นมาเป็นบุตรบุญธรรม ครอบครัวเดี่ยวในลักษณะเช่นนี้ จะประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นแกนหลักของครอบครัว คือสามี - ภรรยา หรือ พ่อ แม่ ลูก สมาชิกมีความสัมพันธ์และผูกพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น มีการสืบทอดสายโลหิตเพียงทอดเดียว คือจากพ่อ-แม่และลูก สมาชิกในครอบครัวจึงมีจำนวนไม่มากนัก มักจะพบครอบครัวประเภทนี้ในสังคมเมืองหรือสังคมสมัยใหม่ บางครั้งจึงมีการเรียกครอบครัวประเภทนี้ว่า ครอบครัวสมัยใหม่ หรือ Modern Family

1.2 ครอบครัวขยาย (Extended family) เป็นครอบครัวที่แตกแขนงจำนวนสมาชิกออกไป

จากแกนเดิมของครอบครัว คือนอกจากจะประกอบด้วยวงศาคณาญาติที่อาศัยร่วมอยู่ด้วย ยังอาจหมายถึงบุคคลอื่นที่มาสมทบในภายหลังโดยนับรวมเข้าร่วมเป็นสมาชิกของครอบครัวด้วย สมาชิกที่เป็นบุคคลอื่นที่มาสบทบและนับรวมเป็นสมาชิกของครอบครัวนี้ อาจขยายจำนวนเพิ่มขึ้นด้วยการสืบทอดตามสายโลหิตรุ่นต่อรุ่น หรืออาจมาสบทบเพิ่มเติมด้วยความผูกสมัครรักใคร่ บางครั้งจึงเรียกครอบครัวประเภทนี้ว่า “ครอบครัวร่วม” หรือ Joint family ซึ่งแบ่งออกเป็นลักษณะ คือ ครอบครัวขยายที่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิต(Consanguinal family) ครอบครัวขยายที่มีความสัมพันธ์โดยการสมรส (Conjugal family) ครอบครัวแอบแฝง (Composite or compound family) หรือ “ครอบครัวหลายผัวหลายเมีย” (Polygamous) ครอบครัวภาระหรือครอบครัวจำเป็น (Essential family) เป็นครอบครัวที่ฝ่ายบิดาหรือมารดาไม่อาศัยอยู่ด้วยในครัวเรือนเดียวกัน แยกไปอยู่ต่างหาก ด้วยเหตุผลความจำเป็นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

2. ครอบครัวที่จัดแบ่งประเภทตามการสืบสายโลหิต แบ่งออกเป็น 2 ประเภทย่อย ดังนี้

• ประเภทสืบสายโลหิตจากทางฝ่ายบิดา (Patrilincal family)

• ประเภทสืบสายโลหิตจากทางฝ่ายมารดา (Matrilincal family)

3. ครอบครัวที่จัดแบ่งประเภทตามที่อยู่อาศัยของคู่สมรส จัดแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

• ครอบครัวที่อยู่อาศัยกับฝ่ายหญิง (Matrilocal family)

• ครอบครัวที่อยู่อาศัยกับฝ่ายชาย (Patrilocal family)

• ครอบครัวที่แยกอาศัยอยู่เป็นเอกเทศหรือครอบครัวอิสระ (Independent family)

4. ครอบครัวที่จัดแบ่งตามอำนาจของผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว แบ่งได้ดังนี้

• ครอบครัวที่ยกให้สามีเป็นใหญ่ (Matriarchal authority family)

• ครอบครัวที่สามี และภรรยามีอำนาจเท่าเทียมกัน (Equalitarian authority)

5. ครอบครัวที่จัดแบ่งลักษณะของการสมรสเป็นการจัดแบ่งประเภทของครอบครัวตามลักษณะของการร่วมใช้ชีวิตแบบสามีภรรยา แบ่งเป็น

• ครอบครัวผัวเดียวเมียเดียว (Monogamy) เป็นครอบครัวที่คู่ครองทั้งสองฝ่าย คือฝ่าย

ชายและฝ่ายหญิงต่างก็ยึดมั่นในการครองชีวิตคู่กับคู่ครองของตน

• ครอบครัวหลายผัวหลายเมีย (Polygamy) เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ที่ฝ่ายชายหรือหญิงอาจมีคู่ครองอยู่ร่วมกันในครัวเรือนเดียวกันฉันท์สามีภรรยา

• ครอบครัวหนึ่งชายหลายหญิง (Polygyny) สามีมีภรรยาได้หลายคน ชายเป็นใหญ่ใน

ครอบครัว บุตรที่เกิดขึ้นจากภรรยาทั้งหลายในครัวเรือนนั้นใช้นามสกุลบิดา และภรรยาอาจเป็นพี่น้อง เป็นญาติ หรือมาจากต่างครอบครัวกันก็ได้

• ครอบครัวหนึ่งหญิงหลายชาย (Polyandry) ภรรยามีสามีได้หลายคน สามีของหญิงอาจ

เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน เป็นญาติสนิทกัน หรือมาจากต่างครอบครัวกันก็ได้ เด็กที่เกิดมาใช้นามสกุลฝ่ายหญิง มักเกิดขึ้นในสังคมด้อยพัฒนา

• ครอบครัวหลายหญิงหลายชาย (Promiscuity) (ภิญโญ ทองดี,ม.ป.ป)

 

 บรรณานุกรม

 

ภิญโญ ทองดี .(..). ครอบครัวและสถาบันครอบครัว จาก  http://www.human.cmu.ac.th/home/hc/ebook/006103/lesson1/04.htm   

          เข้าถึงเมื่อ 19 มีนาคม 2563

ไพเราะ ผ่องโชค สมบูรณ์ จัยวัตน์ และเฉลิมศรี นันทวรรณ .(2547).การพยาบาลอนามัยชุมชน.(พิมพ์

          ครั้งที่1).กรุงเทพฯ: จุดทอง จำกัด.

สุริยา ฟองเกิด ศุภราหิมานันโต.(2559).การพยาบาลครอบครัว.(พิมพ์ครั้งที่1).ชลบุรี:ศรีศิลปการพิมพ์.

Bomar,P.ed.(1996).Nurses and Family Health Promotion : Concepts Assessment and

          Intervention. Philadelphia : S.W.Saunders.

Friedman,M.M.,Bowen,V.R.,&Jones,E.G.(2003).Family Nursing Theory and Practice

(5th ed.)New Jersey : Upper Saddle River.

 

 

 

 

 

 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ทฤษฏีแบบแผนความเชื่อทางสุขภาพ(health belief model)

บทบาทพยาบาลอนามัยชุมชน

แนวข้อสอบกระบวนการชุมชน(part2)